Quran in Thai
Yûnus
ด้วยพระนามแห่งอัลลอฮ์ ผู้ทรงเมตตา ผู้ทรงปรานี
[10:1]
อะลีฟ ลาม รอ เหล่านี้คือบรรดาโองการแห่งคัมภีร์ที่ชัดแจ้ง
[10:2]
เป็นการประหลาดแก่มนุษย์หรือ ที่เราได้ให้วะฮีย์ยฺแก่ชายคนหนึ่งจากพวกเขา ให้เตือนสำทับมนุษย์ และแจ้งข่าวดีแก่บรรดาผู้ศรัทธาว่าแท้จริงสำหรับพวกเขานั้น จะได้รับตำแหน่งอันสูงส่ง ณ ที่พระเจ้าของเขา บรรดาผู้ปฏิเสธศรัทธากล่าวว่า แท้จริง นี่คือนักมายากลอย่างแน่นอน
[10:3]
แท้จริงพระเจ้าของพวกท่านคือ อัลลอฮ์ ผู้ทรงสร้างชั้นฟ้าทั้งหลายและแผ่นดินในเวลา 6 วัน แล้วพระองค์ทรงประทับบนบัลลังก์ ทรงบริหารกิจการ ไม่มีผู้ให้ความช่วยเหลือคนใด เว้นแต่ต้องได้รับอนุมัติจากพระองค์ นั่นคืออัลลอฮ์ พระเจ้าของพวกท่าน พวกท่านจงเคารพภักดีต่อพระองค์เถิด พวกท่านมิได้ใคร่ครวญกันดอกหรือ ?
[10:4]
ยังพระองค์เท่านั้นคือทางกลับของพวกท่านทั้งหลาย สัญญาของอัลลอฮ์นั้นเป็นจริงเสมอ แท้จริงพระองค์นั้นทรงเริ่มการสร้าง แล้วพระองค์ก็ทรงให้มันบังเกิดขึ้นอีกครั้งหนึ่ง เพื่อทรงตอบแทนบรรดาผู้ศรัทธาและผู้ประกอบความดีโดยเที่ยงธรรม ส่วนบรรดาผู้ปฏิเสธศรัทธานั้น พวกเขาจะได้รับเครื่องดื่มที่ร้อนจัดและการลงโทษอันเจ็บแสบ เพราะพวกเขาปฏิเสธ ไม่ยอมศรัทธา
[10:5]
พระองค์ทรงทำให้ดวงอาทิตย์มีแสงจ้า และดวงจันทร์มีแสงนวล และทรงกำหนดให้มันมีทางโคจร เพื่อพวกท่านจะได้รู้จำนวนปีและการคำนวณ อัลลอฮ์มิได้ทรงสร้างสิ่งเหล่านี้ เว้นแต่ด้วยความจริง พระองค์ทรงจำแนกสัญญาณต่างๆ สำหรับหมู่ชนที่มีความรู้
[10:6]
แท้จริงการสับเปลี่ยนของกลางคืนและกลางวัน และที่อัลลอฮ์ทรงสร้างในชั้นฟ้าทั้งหลายและแผ่นดิน แน่นอน เป็นสัญญาณแก่กลุ่มชนที่มีความยำเกรง
[10:7]
แท้จริงบรรดาผู้ที่ไม่หวังจะพบเรา และพวกเขาพอใจต่อชีวิตในโลกดุนยา และพวกเขาดีใจต่อมัน และบรรดาผู้ละเลยต่อสัญญาณต่างๆ ของเรา
[10:8]
ชนเหล่านั้น ที่พำนักของพวกเขาคือนรก เนื่องด้วยพวกเขาขวนขวายเอาไว้
[10:9]
แท้จริงบรรดาผู้ศรัทธาและผู้ประกอบความดี พระเจ้าของพวกเขาจะทรงชี้แนะทางที่ถูกต้องให้แก่พวกเขา เนื่องด้วยการศรัทธาของพวกเขา ภายใต้พวกเขามีแม่น้ำหลายสายไหลผ่าน ซึ่งอยู่ในสวนสวรรค์อันเกษมสำราญ
[10:10]
การขอพรของพวกเขาในสวนสวรรค์คือ มหาบริสุทธิ์แด่พระองค์ท่าน ข้าแต่พระเจ้าของเรา และคำทักทายของพวกเขาในนั้นคือ ความสันติสุข (อัสสลาม) และสุดท้ายแห่งการขอพรของพวกเขาคือ การสรรเสริญเป็นของอัลลอฮ์ พระเจ้าแห่งสากลโลก
[10:11]
และหากอัลลอฮ์ทรงเร่งตอบรับความชั่วของมนุษย์ เช่นเดียวกับการเร่งของพวกเขาเพื่อขอความดีแล้ว แน่นอนความตายของพวกเขาก็คงถูกกำหนดแก่พวกเขา แล้วเราจะปล่อยบรรดาผู้ที่ไม่หวังจะพบเราให้อยู่ในความงงงวย เพราะการดื้อดึงของพวกเขา
[10:12]
และเมื่ออันตรายประสบกับมนุษย์ เขาก็จะวิงวอนขอเราในสภาพนอนตะแคง หรือนั่ง หรือยืน ครั้นเมื่อเราปลดเปลื้องอันตรายของเขาให้พ้นจากเขาไปแล้ว เขาก็เมินคล้ายกับว่าเขามิได้วิงวอนขอเราให้พ้นจากอันตรายที่ได้ประสบแก่เขา เช่นนั้นแหละ ถูกทำให้สวยงามแก่บรรดาผู้ละเมิดขอบเขตในสิ่งที่พวกเขากระทำ
[10:13]
และโดยแน่นอน เราได้ทำลายประชาชาติจากศตวรรษก่อนจากพวกท่านไปแล้ว เมื่อพวกเขาเป็นผู้อธรรม และบรรดาร่อซู้ลของพวกเขาได้มายังพวกเขาพร้อมด้วยหลักฐานอันชัดแจ้ง แล้วพวกเขาก็ไม่ศรัทธา เช่นนั้นแหละ เราได้ตอบแทนแก่หมู่ชนที่เป็นอาชญากร
[10:14]
แล้วเราก็ได้แต่งตั้งพวกท่านให้เป็นตัวแทนในแผ่นดินหลังจากพวกเขาเหล่านั้น เพื่อเราจะดูว่าพวกท่านจะปฏิบัติตนอย่างไร
[10:15]
และเมื่อบรรดาโองการอันชัดแจ้งของเราถูกอ่านแก่พวกเขาแล้ว บรรดาผู้ไม่หวังที่จะพบเราก็กล่าวว่า ท่านจงนำกุรอานอื่นจากนี้มาให้เราหรือเปลี่ยนแปลงเสีย จงกล่าวเถิด (มุฮัมมัด) ไม่บังควรแก่ฉันที่จะเปลี่ยนแปลงโดยพละการจากตัวฉัน ฉันจะไม่ปฏิบัติตามเว้นแต่สิ่งที่ถูกประทานมาให้แก่ฉันเท่านั้น แท้จริงฉันกลัวว่า หากฉันฝ่าฝืนพระเจ้าของฉันแล้วจะได้รับการลงโทษในวันอันยิ่งใหญ่
[10:16]
จงกล่าวเถิด (มุฮัมมัด) หากอัลลอฮ์ทรงประสงค์ ฉันจะไม่อ่านอัลกุรอานแก่พวกท่าน และพระองค์จะไม่ให้พวกท่านได้รู้อัลกุรอานนั้น แน่นอนฉันได้มีอายุอยู่ในหมู่พวกท่านมาก่อนนั้น พวกท่านไม่ใช้สติปัญญาคิดบ้างหรือ ?
[10:17]
ดังนั้น ผู้ใดเล่าจะอธรรมยิ่งกว่าผู้กล่าวเท็จต่ออัลลอฮ์ หรือผู้ปฏิเสธต่อบรรดาโองการของพระองค์ แท้จริงบรรดาผู้ทำผิดนั้นย่อมไม่บรรลุความสำเร็จ
[10:18]
และพวกเขาจะเคารพภักดีสิ่งอื่นไปจากอัลลอฮ์ที่มิได้ให้โทษแก่พวกเขา และมิได้ให้ประโยชน์แก่พวกเขา และพวกเขาจะกล่าวว่า เหล่านี้คือผู้ช่วยเหลือเรา ณ ที่อัลลอฮ์ จงกล่าวเถิด (มุฮัมมัด) พวกท่านจะแจ้งข่าวแก่อัลลอฮ์ด้วยสิ่งที่พระองค์ไม่ทรงรู้ ในบรรดาชั้นฟ้าและในแผ่นดินกระนั้นหรือ ? พระองค์ทรงมหาบริสุทธิ์และทรงสูงส่งเหนือสิ่งที่พวกเขาตั้งภาคีขึ้น
[10:19]
และมนุษย์นั้นมิใช่อื่นใด นอกจากเป็นประชาชาติเดียวกัน แล้วพวกเขาก็แตกแยกกัน และหากมิใช่ลิขิตได้บันทึกไว้ที่พระเจ้าของพวกเจ้าแล้ว แน่นอนก็คงถูกตัดสินระหว่างพวกเขาในเรื่องที่พวกเขาขัดแย้งกัน
[10:20]
และพวกเขากล่าวว่า ทำไมอภินิหารจากพระเจ้าของเขาจึงไม่ถูกประทานมาให้เขา จงกล่าวเถิด (มุฮัมมัด) แท้จริงสิ่งเร้นลับนั้นเป็นของอัลลอฮ์ พวกท่านจงคอยดูเถิด แท้จริงฉันนั้นอยู่กับพวกท่านในหมู่ผู้คอยดู
[10:21]
และเมื่อเราให้มนุษย์ลิ้มรสความเมตตาหลังจากภยันตรายได้ประสบแก่พวกเขา ดังนั้นพวกเขาก็มีอุบายต่อโองการต่างๆ ของเรา จงกล่าวเถิด (มุฮัมมัด) อัลลอฮ์ทรงรวดเร็วยิ่งในการแก้อุบาย แท้จริงบรรดามลาอิกะฮ์ของเราจะบันทึกสิ่งที่พวกท่านกำลังทำอุบายอยู่
[10:22]
พระองค์ผู้ทรงทำให้พวกท่านเดินทางโดยทางบกและทางทะเล จนกระทั่งเมื่อพวกท่านอยู่ในเรือและมันได้นำพวกเขาแล่นไปด้วยลมที่ดี และพวกเขาดีใจกับมัน ทันใดนั้นลมพายุได้พัดกระหน่ำ และคลื่นก็ซัดเข้ามายังพวกเขาจากทุกด้าน และพวกเขาคิดว่า แท้จริงพวกเขาถูกล้อมด้วยสิ่งเหล่านี้ พวกเขาจึงวิงวอนขอต่ออัลลอฮ์ด้วยความบริสุทธิ์ใจต่อพระองค์ว่า หากพระองค์ทรงให้เราพ้นจากภยันตรายนี้ โดยแน่นอนยิ่ง พวกเราจะอยู่ในหมู่ผู้กตัญญูทั้งหลาย
[10:23]
ครั้นเมื่อพระองค์ทรงให้พวกเขารอดมา แล้วพวกเขาก็ทำความเสียหายในแผ่นดินโดยปราศจากความเป็นธรรม โอ้มนุษย์เอ๋ย แท้จริงการทำความเสียหายของพวกเจ้านั้นมันเป็นอันตรายต่อตัวของพวกเจ้าเอง เป็นความเพลิดเพลินของชีวิตในโลกนี้เท่านั้น แล้วในที่สุดพวกเจ้าก็จะกลับไปหาเรา แล้วเราจะแจ้งข่าวให้พวกเจ้าทราบถึงสิ่งที่พวกเจ้าได้กระทำไว้
[10:24]
แท้จริง อุปมาชีวิตในโลกนี้ ดั่งน้ำฝนที่เราได้หลั่งมันลงมาจากฟากฟ้า พืชของแผ่นดินได้คละเคล้ากับน้ำนั้น บางส่วนของมันมนุษย์และปศุสัตว์ใช้กินเป็นอาหาร จนกระทั่งเมื่อแผ่นดินได้เริ่มปรากฏความงดงามของมัน และถูกประดับด้วยพืชผลอย่างสวยงาม เจ้าของของมันก็คิดว่า แท้จริงพวกเขามีอำนาจเหนือมัน คำบัญชาของเราได้มายังมันในเวลากลางคืนหรือเวลากลางวัน แล้วเราได้ทำให้มันถูกเก็บเกี่ยวเสมือนกับว่าไม่มีการหว่านมาแต่วันวาน เช่นนั้นแหละ เราได้จำแนกโองการต่าง ๆ แก่หมู่ชนผู้ใคร่ครวญ
[10:25]
และอัลลอฮ์ทรงเรียกร้องไปสู่สถานที่แห่งศานติ และทรงชี้แนะแนวทางที่ถูกต้องแก่ผู้ที่พระองค์ทรงประสงค์ไปสู่ทางที่เที่ยงธรรม
[10:26]
สำหรับบรรดาผู้กระทำความดีจะได้รับความดี และได้เพิ่มขึ้นอีก ความหมองคล้ำและความต่ำต้อยจะไม่ปกคลุมใบหน้าของพวกเขา ชนเหล่านี้คือชาวสวรรค์ พวกเขาจะอยู่ในนั้นตลอดกาล
[10:27]
และบรรดาผู้ขวนขวายทำความชั่ว การตอบแทนความชั่วด้วยความชั่วเช่นเดียวกัน ความต่ำต้อยจะปกคลุมพวกเขา ไม่มีผู้คุ้มกันพวกเขาให้พ้นจากอัลลอฮ์ได้ เสมือนว่าใบหน้าของพวกเขาถูกคลุมไว้ด้วยส่วนหนึ่งของกลางคืนอันมืดทึบ ชนเหล่านี้คือชาวนรก พวกเขาจะอยู่ในนั้นตลอดกาล
[10:28]
และวันที่เราชุมนุมพวกเขาทั้งหมด แล้วเราจะกล่าวแก่บรรดาผู้ตั้งภาคีว่า จงอยู่ ณ สถานที่ของพวกเจ้า พวกเจ้าและบรรดาภาคีของพวกเจ้า แล้วเราได้แยกพวกเขาออกจากกัน และบรรดาภาคีของพวกเขากล่าวว่า ไม่ควรเลยที่พวกท่านจะเคารพสักการะต่อเรา
[10:29]
ดังนั้นจึงพอเพียงแล้วที่อัลลอฮ์ทรงเป็นพยานระหว่างเรากับพวกท่าน แน่นอนเรา (บรรดาภาคี) ไม่รู้เลยในการเคารพสักการะของพวกท่านต่อเรา
[10:30]
ขณะนั้นทุกชีวิตจะถูกสอบถึงสิ่งที่กระทำไว้ก่อน และพวกเขาจะถูกนำกลับไปยังอัลลอฮ์พระเจ้าที่แท้จริงของพวกเขา และสิ่งที่พวกเขาอุปโลกน์ขึ้นมาจะหนีไปจากพวกเขา
[10:31]
จงกล่าวเถิด (มุฮัมมัด) ใครเป็นผู้ประทานปัจจัยยังชีพที่มาจากฟากฟ้าและแผ่นดินแก่พวกท่าน หรือใครเป็นเจ้าของการได้ยินและการมอง และใครเป็นผู้ให้มีชีวิตหลังจากการตาย และเป็นผู้ให้ตายหลังจากมีชีวิตมา และใครเป็นผู้บริหารกิจการ แล้วพวกเขาจะกล่าวว่า อัลลอฮ์ ดังนั้นจงกล่าวเถิด (มุฮัมมัด) พวกท่านไม่ยำเกรงหรือ ?
[10:32]
นั่นแหละอัลลอฮ์ พระเจ้าที่แท้จริงของพวกท่าน ฉะนั้นหลังจากความจริงแล้วจะมีอะไรอีกเล่านอกจากความหลงผิดเท่านั้น แล้วทำไมเล่าพวกท่านจึงถูกให้หันเหออกไปอีก ?
[10:33]
เช่นนั้นแหละ ลิขิตของพระเจ้าของเจ้าย่อมเป็นจริงแก่บรรดาผู้ที่ฝ่าฝืนว่า แน่แท้พวกเขาจะไม่ศรัทธา
[10:34]
จงกล่าวเถิด (มุฮัมมัด) มีใครบ้างในหมู่ภาคีของพวกท่านที่เป็นผู้เริ่มแรกในการให้บังเกิดแล้วให้มันบังเกิดอีก ? จงกล่าวเถิด (มุฮัมมัด) อัลลอฮ์ทรงเริ่มแรกในการให้บังเกิด แล้วทรงให้มันบังเกิดอีกครั้งหนึ่ง ดังนั้นทำไมพวกท่านจึงหันเหออกจากความจริงไป (สู่ความเท็จ) เล่า ?
[10:35]
จงกล่าวเถิด (มุฮัมมัด) มีใครบ้างในหมู่ภาคีของพวกท่านเป็นผู้ชี้แนะทางสู่สัจธรรม ? จงกล่าวเถิด (มุฮัมมัด) อัลลอฮ์ทรงชี้แนะทางสู่สัจธรรม ดังนั้นผู้ที่ชี้แนะทางสู่สัจธรรมสมควรกว่าที่จะได้รับการปฏิบัติตาม (อิบาดะฮ์) หรือว่าผู้ที่ไม่อาจจะชี้แนะผู้อื่นได้เว้นแต่จะถูกชี้แนะ ทำไมพวกท่านจึงตัดสินใจเช่นนั้น ?
[10:36]
และส่วนใหญ่ของพวกเขามิได้ปฏิบัติตามสิ่งใดนอกจากการนึกคิด แท้จริงการนึกคิดนั้นไม่อาจจะแทนความจริงได้แต่อย่างใด แท้จริงอัลลอฮ์นั้นทรงรอบรู้ในสิ่งที่พวกเขากระทำ
[10:37]
และอัลกุรอานนั้นมิใช่จะถูกปั้นแต่งขึ้นโดยผู้ใดนอกจากอัลลอฮ์ แต่เป็นการยืนยันคัมภีร์ที่มีมาก่อน และเป็นการจำแนกข้อบัญญัติต่างๆ ในนั้น ไม่มีข้อสงสัยในคัมภีร์นั้นซึ่งมาจากพระเจ้าแห่งสากลโลก
[10:38]
หรือพวกเขากล่าวว่า เขา (มุฮัมมัด) เป็นผู้ปั้นแต่งขึ้น จงกล่าวเถิด (มุฮัมมัด) พวกท่านจงนำมาสักบทหนึ่งเยี่ยงนั้น และจงเรียกร้องผู้ที่พวกท่านสามารถนำมาได้นอกจากอัลลอฮ์ หากพวกท่านเป็นผู้สัจจริง
[10:39]
แต่ว่าพวกเขาปฏิเสธสิ่งที่พวกเขายังไม่รู้มาก่อน และสัญญาร้ายยังมิได้มายังพวกเขา เช่นนั้นแหละ บรรดาชนรุ่นก่อนจากพวกเขาได้ปฏิเสธมาแล้ว ดังนั้น เจ้าจงดูเถิดว่า ผลสุดท้ายของพวกอธรรมนั้นเป็นอย่างไร ?
[10:40]
และในหมู่พวกเขามีผู้ศรัทธาในอัลกุรอาน และในหมู่พวกเขามีผู้ไม่ศรัทธา และพระเจ้าของเจ้าทรงรู้ดียิ่ง ต่อบรรดาผู้บ่อนทำลายทั้งหลาย
[10:41]
และถ้าพวกเขาปฏิเสธ (ไม่ยอมศรัทธา) เจ้าจงกล่าวเถิด (มุฮัมมัด) การงานของฉันก็เป็นของฉัน และการงานของพวกท่านก็เป็นของพวกท่าน พวกท่านจงปลีกตัวออกจากสิ่งที่ฉันกระทำ และฉันก็จะปลีกตัวออกจากสิ่งที่พวกท่านกระทำ
[10:42]
และในหมู่พวกเขามีผู้ฟัง (การอ่านอัลกุรอาน) ของเจ้า เจ้าจะให้คนหูหนวกได้ยินกระนั้นหรือ ? และถึงแม้พวกเขาหูหนวกแต่ก็ไม่ใช้ปัญญา
[10:43]
และในหมู่พวกเขามีผู้มองไปยังเจ้า เจ้าจะชี้แนะทางให้คนตาบอดกระนั้นหรือ ? และถึงแม้พวกเขาตาบอดแต่ก็ไม่มีสายตาที่จะมองดู
[10:44]
แท้จริงอัลลอฮ์นั้นจะไม่ทรงอธรรมแก่มนุษย์แต่อย่างใด แต่ว่ามนุษย์ต่างหากที่อธรรมต่อตัวของพวกเขาเอง
[10:45]
และวันที่พระองค์ทรงชุมนุมพวกเขาประหนึ่งว่าพวกเขามิได้พำนักอยู่นาน (ในโลกนี้) เว้นแต่เพียงชั่วครู่เดียวในเวลากลางวัน พวกเขาทักทายซึ่งกันและกัน แน่นอนบรรดาผู้ปฏิเสธต่อการพบอัลลอฮ์ย่อมขาดทุน และพวกเขามิได้เป็นผู้ที่อยู่ในแนวทางที่ถูกต้อง
[10:46]
และบางคนที่เราจะให้เจ้าได้เห็นบางส่วน (ของการลงโทษ) ซึ่งเราสัญญาแก่พวกเขา หรือเราจะให้เจ้าตายเสียก่อน ดังนั้นทางกลับของพวกเขาย่อมไปหาเรา แล้วอัลลอฮ์ทรงเป็นพยานต่อสิ่งที่พวกเขากระทำ
[10:47]
และทุกประชาชาติมีร่อซู้ลถูกส่งมา ดังนั้นเมื่อร่อซู้ลของพวกเขาได้มาแล้ว กิจการระหว่างพวกเขาก็ถูกตัดสินโดยเที่ยงธรรม และพวกเขาจะไม่ถูกอธรรม
[10:48]
และพวกเขาจะกล่าวว่า เมื่อใดเล่าสัญญานี้ (จะปรากฏ) หากพวกท่านสัจจริง ?
[10:49]
จงกล่าวเถิด (มุฮัมมัด) ฉันไม่มีอำนาจที่จะให้โทษและให้คุณแก่ตัวฉัน เว้นแต่ที่อัลลอฮ์ทรงประสงค์ สำหรับทุกประชาชาติย่อมมีเวลากำหนด เมื่อเวลาของพวกเขามาถึง พวกเขาจะขอผ่อนผันให้ล่าช้าสักระยะหนึ่งไม่ได้ และจะร่นเวลาให้เร็วเข้าก็มิได้
[10:50]
จงกล่าวเถิด (มุฮัมมัด) พวกท่านเห็นแล้วมิใช่หรือ ? หากการลงโทษของพระองค์ประสบแก่พวกท่านในเวลากลางคืนหรือเวลากลางวัน ทำไมพวกอาชญากรเหล่านั้นจึงขอร่นเวลา
[10:51]
ครั้นเมื่อมันเกิดขึ้น พวกท่านก็ศรัทธาต่อพระองค์กระนั้นหรือ ? ขณะนี้ (พวกท่านศรัทธา) ก่อนหน้านั้นพวกท่าน (เยาะเย้ย) ขอร่นเวลา
[10:52]
แล้วมีเสียงกล่าวแก่พวกอธรรมว่า พวกท่านจงลิ้มรสการลงโทษอันจีรังเถิด พวกท่านจะไม่ถูกตอบแทน เว้นแต่สิ่งที่พวกท่านขวนขวายไว้เท่านั้น
[10:53]
และพวกเขาจะสอบถามเจ้าว่า (การลงโทษ) จะเกิดขึ้นจริงหรือ ? จงกล่าวเถิด (มุฮัมมัด) แน่นอนทีเดียว ขอสาบานต่อพระเจ้าของฉัน แท้จริงมันจะเกิดขึ้นอย่างแน่นอน และพวกท่านไม่สามารถจะรอดไปได้
[10:54]
หากทุกชีวิตที่อธรรม (ครอบครองคลังสมบัติ) ที่อยู่ในแผ่นดิน มันก็จะยอมไถ่ตน และพวกเขาก็จะซ่อนความเสียใจเมื่อได้เห็นการลงโทษ และจะถูกตัดสินระหว่างพวกเขาอย่างเที่ยงธรรม และพวกเขาจะไม่ถูกอธรรมแต่อย่างใด
[10:55]
พึงทราบเถิด แท้จริงในชั้นฟ้าทั้งหลายและแผ่นดินเป็นกรรมสิทธิ์ของอัลลอฮ์ พึงทราบเถิด แท้จริงสัญญาของอัลลอฮ์นั้นจะเกิดขึ้นจริง แต่ส่วนใหญ่ของพวกเขาไม่รู้
[10:56]
พระองค์ทรงให้เป็นและทรงให้ตาย และยังพระองค์เท่านั้นพวกท่านจะถูกนำกลับไป
[10:57]
โอ้มนุษย์เอ๋ย แท้จริงข้อตักเตือน (อัลกุรอาน) จากพระเจ้าของพวกท่านได้มายังพวกท่านแล้ว และ (มัน) เป็นการบำบัดสิ่งที่มีอยู่ในทรวงอก และเป็นการชี้แนะทาง และเป็นความเมตตาแก่บรรดาผู้ศรัทธา
[10:58]
จงกล่าวเถิด (มุฮัมมัด) ด้วยความโปรดปรานของอัลลอฮ์ และด้วยความเมตตาของพระองค์ ดังกล่าวนั้น พวกเขาจงดีใจเถิด ซึ่งมันดียิ่งกว่าสิ่งที่พวกเขาสะสมไว้
[10:59]
จงกล่าวเถิด (มุฮัมมัด) พวกท่านเห็นแล้วมิใช่หรือซึ่งเครื่องยังชีพที่อัลลอฮ์ทรงประทานให้แก่พวกท่าน แล้วพวกท่านก็ทำให้บางส่วนเป็นที่ต้องห้าม (หะรอม) และบางส่วนเป็นที่อนุมัติ (หะลาล) จงกล่าวเถิด (มุฮัมมัด) อัลลอฮ์ทรงอนุมัติให้แก่พวกท่าน หรือพวกท่านปั้นแต่งให้แก่อัลลอฮ์
[10:60]
และบรรดาผู้ที่ปั้นแต่งความเท็จให้แก่อัลลอฮ์จะนึกคิดอย่างไรในวันกิยามะฮ์ แท้จริงอัลลอฮ์นั้นทรงเป็นผู้มีบุญคุณต่อมนุษย์ แต่ว่าส่วนใหญ่ของพวกเขาไม่ขอบคุณ
[10:61]
และเจ้ามิได้อยู่ในเรื่องหนึ่งเรื่องใด และเจ้ามิได้อ่านบางส่วนจากมันในอัลกุรอาน และพวกท่านมิได้กระทำการใดๆ เว้นแต่เราได้เป็นพยานแก่พวกท่านในขณะที่พวกท่านกำลังง่วนอยู่ในเรื่องนั้น และจะไม่รอดพ้นจากพระเจ้าของเจ้า (การกระทำใดๆ) ที่มีน้ำหนักเท่าธุลีทั้งในแผ่นดินและในชั้นฟ้า และที่เล็กกว่านั้นและที่ใหญ่กว่านั้น เว้นแต่อยู่ในบันทึกอันชัดแจ้งทั้งสิ้น
[10:62]
พึงทราบเถิด แท้จริงบรรดาคนที่อัลลอฮ์รักนั้น ไม่มีความหวาดกลัวใดๆ แก่พวกเขา และพวกเขาจะไม่เศร้าโศกเสียใจ
[10:63]
คือบรรดาผู้ศรัทธา และพวกเขามีความยำเกรง
[10:64]
สำหรับพวกเขาจะได้รับข่าวดีในการมีชีวิตอยู่ในโลกนี้และในโลกหน้า ไม่มีการเปลี่ยนแปลงในลิขิตของอัลลอฮ์ นั่นคือชัยชนะอันยิ่งใหญ่
[10:65]
และคำพูดของพวกเขาจะไม่ทำให้เจ้าเสียใจ แท้จริงอำนาจทั้งมวลนั้นเป็นของอัลลอฮ์ พระองค์เป็นผู้ทรงได้ยิน ผู้ทรงรอบรู้
[10:66]
พึงทราบเถิด แท้จริงทุกสิ่งในชั้นฟ้าทั้งหลายและทุกสิ่งในแผ่นดินนั้นเป็นของอัลลอฮ์ และบรรดาผู้วิงวอนขอสิ่งอื่นจากอัลลอฮ์นั้นจะไม่ปฏิบัติตามภาคีเหล่านั้น พวกเขาจะไม่ปฏิบัติตามเว้นแต่การคาดคิดเท่านั้น และพวกเขามิได้ตั้งอยู่บนสิ่งใดนอกจากคาดคะเนขึ้น
[10:67]
พระองค์ผู้ทรงบันดาลกลางคืนให้แก่พวกท่านเพื่อพวกท่านจะได้พักผ่อนในมัน และกลางวันเพื่อจะได้มองเห็น แท้จริงในการนั้นแน่นอนย่อมเป็นสัญญาณแก่หมู่ชนที่ได้ยินเพื่อใคร่ครวญ
[10:68]
พวกเขากล่าวว่า อัลลอฮ์ทรงแต่งตั้งพระบุตร มหาบริสุทธิ์พระองค์ท่าน พระองค์ทรงพอเพียงจากสิ่งใดๆ ที่อยู่ในชั้นฟ้าทั้งหลายและที่อยู่ในแผ่นดินเป็นของพระองค์ พวกท่านไม่มีหลักฐานใดๆ ในการกล่าวเช่นนี้ พวกท่านจะกล่าวร้ายต่ออัลลอฮ์ในสิ่งที่พวกท่านไม่รู้กระนั้นหรือ ?
[10:69]
จงกล่าวเถิด (มุฮัมมัด) แท้จริงบรรดาผู้กล่าวเท็จต่ออัลลอฮ์นั้น พวกเขาจะไม่ประสบความสำเร็จดอก
[10:70]
ความเพลิดเพลินในโลกนี้ แล้วพวกเขาก็กลับคืนมาสู่เรา แล้วเราจะให้พวกเขาลิ้มรสการลงโทษอย่างหนักเพราะเหตุที่พวกเขาปฏิเสธศรัทธา
[10:71]
และเจ้าจงอ่านให้พวกเขาฟังถึงเรื่องราวของนบีนูห์ เมื่อเขา (นูห์) กล่าวแก่ประชาชาติของเขาว่า โอ้หมู่ชนของฉัน หากว่าการพักอยู่ของฉันและการตักเตือนของฉันด้วยโองการทั้งหลายของอัลลอฮ์เป็นเรื่องใหญ่แก่พวกท่านแล้ว ดังนั้นฉันขอมอบหมายแด่อัลลอฮ์เท่านั้น พวกท่านจงร่วมกันวางแผนของพวกท่านพร้อมกับบรรดาภาคีของพวกท่านเถิด แล้วอย่าให้แผนของพวกท่านเป็นที่ปิดบังแก่พวกท่าน แล้วจงดำเนินการต่อฉันทันทีและอย่าได้ลังเลเลย
[10:72]
หากพวกท่านผินหลังให้ ฉันมิได้ขอค่าตอบแทนใดๆ จากพวกท่าน แต่รางวัลของฉันอยู่ที่อัลลอฮ์ และฉันถูกใช้ให้อยู่ในหมู่ผู้นอบน้อม
[10:73]
แล้วพวกเขาก็ปฏิเสธเขา (นูห์) เราได้ช่วยให้เขาและผู้อยู่กับเขารอดพ้นไว้ในเรือ และเราได้ให้พวกเขาเป็นตัวแทน (ในเวลาต่อมา) และเราได้ให้บรรดาผู้ปฏิเสธโองการทั้งหลายของเราจมน้ำ ดังนั้นเจ้าจงดูเถิดว่าผลสุดท้ายของพวกที่ถูกเตือนนั้นเป็นอย่างไร ?
[10:74]
หลังจากเขา (นูห์) แล้ว เราได้ส่งบรรดาร่อซู้ลไปยังประชาชาติของพวกเขา แล้วบรรดาร่อซู้ลเหล่านั้นได้นำหลักฐานอย่างชัดแจ้งมายังพวกเขา แต่พวกเขามิได้ศรัทธาในสิ่งที่พวกเขาได้เคยปฏิเสธต่อนูห์มาก่อนแล้ว เช่นนั้นแหละ เราได้ประทับตราบนหัวใจของบรรดาผู้ฝ่าฝืนเหล่านั้น
[10:75]
หลังจากพวกเหล่านั้นแล้ว เราได้ส่งมูซาและฮารูนไปยังฟิรเอาน์และบรรดาผู้นำของเขาด้วยสัญญาณทั้งหลายของเรา พวกเขาก็เย่อหยิ่ง โอหัง โดยพวกเขาเป็นกลุ่มชนที่มีความผิด
[10:76]
ครั้นเมื่อความจริงจากเราได้มายังพวกเขาแล้ว พวกเขาก็กล่าวว่า แท้จริงนี่คือวิทยากลอันชัดแจ้ง
[10:77]
มูซาได้กล่าวว่า พวกท่านกล่าวร้ายต่อความจริงเมื่อมันได้มายังพวกท่านเช่นนั้นหรือ ? นี่หรือวิทยากล และนักวิทยากลนั้นจะไม่ประสบความสำเร็จดอก
[10:78]
พวกเขากล่าวว่า ท่านมาหาเราเพื่อที่จะหันเหเราออกจากสิ่งที่เราได้พบเห็น (ศาสนา) ของบรรพบุรุษของเรา และเพื่อที่ความยิ่งใหญ่ในแผ่นดินจะได้เป็นของท่านทั้งสองกระนั้นหรือ ? และเราจะไม่ศรัทธาต่อท่านทั้งสองเป็นแน่
[10:79]
และฟิรเอาน์ได้กล่าวว่า พวกท่านจงนำมาให้ฉัน นักวิทยากลผู้เชี่ยวชาญทุกคน
[10:80]
เมื่อนักวิทยากลมาแล้ว มูซาได้กล่าวกับพวกเขาว่า พวกท่านจงโยนสิ่งที่พวกท่านนำมาเพื่อจะโยนเถิด
[10:81]
เมื่อพวกเขาได้โยนไปแล้ว มูซาได้กล่าวว่า สิ่งที่พวกท่านนำมานั้นคือวิทยากล แท้จริงอัลลอฮ์จะทรงทำลายมัน แท้จริงอัลลอฮ์จะไม่ทรงทำให้การงานของบรรดาผู้บ่อนทำลายดีขึ้น
[10:82]
และอัลลอฮ์จะทรงให้สัจธรรมยืนหยัดอยู่ด้วยคำกล่าวของพระองค์ และแม้ว่าบรรดาคนชั่วจะเกลียดชังก็ตาม
[10:83]
ไม่มีใครศรัทธาต่อมูซานอกจากลูกหลานบางคนจากกลุ่มชนของเขา (บนีอิสรออีล) เนื่องจากความกลัวต่อฟิรเอาน์และหัวหน้าของพวกเขาจะทำความวุ่นวายแก่พวกเขา และแท้จริงฟิรเอาน์นั้นเป็นผู้หยิ่งผยองในแผ่นดิน และแท้จริงเขาอยู่ในหมู่ผู้ละเมิด
[10:84]
และมูซากล่าวว่า โอ้กลุ่มชนของฉัน หากพวกท่านศรัทธาต่ออัลลอฮ์ พวกท่านก็จงมอบหมายต่อพระองค์ หากพวกท่านเป็นผู้ยอมจำนน
[10:85]
พวกเขากล่าวว่า แด่อัลลอฮ์เราขอมอบหมาย ข้าแต่พระเจ้าของเรา ได้ทรงโปรดอย่าให้เราเป็นเครื่องทดลองสำหรับหมู่ชนผู้อธรรมเลย
[10:86]
และได้ทรงโปรดช่วยเราให้พ้นจากหมู่ชนผู้ปฏิเสธศรัทธาด้วยพระเมตตาของพระองค์ด้วยเถิด
[10:87]
และเราได้วะฮีย์ยฺมายังมูซาและพี่ชายของเขา (ฮารูน) ให้จัดสร้างบ้านให้แก่กลุ่มชนของเจ้าทั้งสองในอียิปต์ และจงทำบ้านของพวกท่านเป็นกิบละฮ์ และจงดำรงการละหมาด และจงแจ้งข่าวดีแก่บรรดาผู้ศรัทธา
[10:88]
และมูซาได้กล่าวว่า ข้าแต่พระเจ้าของเรา แท้จริงพระองค์ทรงประทานความสำราญและทรัพย์สินแก่ฟิรเอาน์และหัวหน้าของเขาในการมีชีวิตอยู่ในโลกนี้ ข้าแต่พระเจ้าของเรา โดยพวกเขาจะทำให้ (กลุ่มชน) หลงจากแนวทางของพระองค์ ข้าแต่พระเจ้าของเรา ขอพระองค์ทรงทำลายทรัพย์สินของพวกเขา และทรงโปรดทำให้หัวใจของพวกเขาแข็งกระด้างเพื่อมิให้พวกเขาศรัทธาจนกว่าพวกเขาจะเห็นการลงโทษอย่างเจ็บปวด
[10:89]
พระองค์ตรัสว่า การวิงวอนของเจ้าทั้งสองถูกรับแล้ว เจ้าทั้งสองจงดำเนินตามแนวทางที่เที่ยงธรรม และอย่าปฏิบัติตามแนวทางของบรรดาผู้ไม่รู้
[10:90]
และเราได้ให้บนีอิสรออีลข้ามทะเลพ้นไป ดังนั้นฟิรเอาน์และพลพรรคของเขาได้ติดตามพวกเขา (บนีอิสรออีล) ไปโดยอธรรมและเป็นศัตรู จนกระทั่งเมื่อการจมน้ำมาถึงเขาแล้ว เขากล่าวว่า ฉันศรัทธาแล้วว่า แท้จริงไม่มีพระเจ้าอื่นใด นอกจากผู้ซึ่งบนีอิสรออีลได้ศรัทธาต่อพระองค์ และฉันคือคนหนึ่งในหมู่ผู้นอบน้อม
[10:91]
บัดนี้ และแน่นอนเจ้าเป็นผู้ทรยศก่อนหน้านี้ และเจ้าเป็นคนหนึ่งในหมู่ผู้บ่อนทำลาย
[10:92]
ดังนั้น วันนี้เราจะให้ร่างของเจ้าออกจากทะเล เพื่อจักได้เป็นสัญญาณแก่ชนรุ่นหลังจากเจ้า และแท้จริงส่วนใหญ่ของมนุษย์เฉยเมยต่อสัญญาณต่างๆ ของเรา
[10:93]
และโดยแน่นอน เราได้ให้บนีอิสรออีลพำนักอาศัยอยู่ ณ สถานที่อันดี และเราได้ให้ปัจจัยยังชีพที่ดีมากมายแก่พวกเขา ดังนั้นพวกเขามิได้แตกแยกกันจนกระทั่งคัมภีร์ได้มายังพวกเขา แท้จริงพระเจ้าของเจ้าจะทรงตัดสินระหว่างพวกเขาในวันกิยามะฮ์ในสิ่งที่พวกเขาขัดแย้งกัน
[10:94]
หากเจ้าอยู่ในการสงสัยในสิ่งที่เราได้ให้แก่เจ้า ก็จงถามบรรดาผู้อ่านคัมภีร์ก่อนเจ้า (เตารอฮ์) โดยแน่นอน สัจธรรมได้มายังเจ้าจากพระเจ้าของเจ้า ดังนั้นเจ้าจงอย่าอยู่ในหมู่ผู้สงสัย
[10:95]
และเจ้าอย่าเป็นเช่นบรรดาผู้ปฏิเสธโองการทั้งหลายของอัลลอฮ์ ดังนั้นเจ้าจะอยู่ในหมู่ผู้ขาดทุน
[10:96]
แท้จริงบรรดาผู้ที่พระดำรัส (การลงโทษ) ของพระเจ้าของเจ้าได้บัญญัติแก่พวกเขาแล้ว พวกเขาจะไม่ศรัทธา
[10:97]
และแม้ว่าทุกสัญญาณได้มายังพวกเขาจนกว่าพวกเขาจะแลเห็นการลงโทษอย่างเจ็บปวด
[10:98]
ดังนั้น ทำไมจึงไม่มีหมู่บ้านสักแห่งหนึ่งศรัทธาโดยที่การศรัทธาของพวกเขาจะอำนวยประโยชน์แก่พวกเขา นอกจากกลุ่มชนของยูนุส เมื่อพวกเขาศรัทธา เราได้ปลดเปลื้องการลงโทษอันอัปยศจากพวกเขาในการมีชีวิตในโลกนี้ และเราได้ยืดเวลาระยะหนึ่งแก่พวกเขา
[10:99]
และหากพระเจ้าของเจ้าทรงประสงค์ แน่นอน ผู้ที่อยู่ในแผ่นดินทั้งมวลจะศรัทธา เจ้าจะบังคับมวลชนจนกว่าพวกเขาจะเป็นผู้ศรัทธากระนั้นหรือ ?
[10:100]
และมิเคยปรากฏว่าชีวิตใดจะศรัทธา เว้นแต่ด้วยอนุมัติของอัลลอฮ์ และพระองค์จะทรงลงโทษแก่บรรดาผู้ไม่ใช้สติปัญญา
[10:101]
จงกล่าวเถิด (มุฮัมมัด) พวกท่านจงดูว่ามีอะไรในชั้นฟ้าทั้งหลายและแผ่นดิน และสัญญาณทั้งหลายและการตักเตือนทั้งหลายจะไม่อำนวยผลแก่กลุ่มชนที่ไม่ศรัทธา
[10:102]
พวกเขาจะไม่คอยดูสิ่งใด นอกจากการคอยดูเยี่ยงวันทั้งหลายของบรรดาผู้ที่ล่วงลับไปก่อนพวกเขา จงกล่าวเถิด (มุฮัมมัด) พวกท่านจงคอยดูเถิด แท้จริงฉันจะเป็นคนหนึ่งในหมู่ผู้คอยดู
[10:103]
แล้วเราจะช่วยบรรดาร่อซู้ลของเราและบรรดาผู้ศรัทธาให้รอดพ้น เช่นนั้นแหละเป็นหน้าที่เราที่เราจะช่วยบรรดามุอฺมินให้รอดพ้น
[10:104]
จงกล่าวเถิด (มุฮัมมัด) โอ้มนุษย์เอ๋ย หากพวกท่านสงสัยในศาสนาของฉัน ดังนั้นฉันจะไม่เคารพภักดีอื่นจากอัลลอฮ์ แต่ฉันจะเคารพภักดีอัลลอฮ์ผู้ทรงทำให้พวกท่านตาย และฉันได้รับบัญชาให้เป็นคนหนึ่งในหมู่ผู้ศรัทธา
[10:105]
และว่า จงมุ่งหน้าของเจ้าเพื่อศาสนาอย่างเที่ยงตรง และอย่าอยู่ในหมู่ผู้ตั้งภาคี
[10:106]
และเจ้าอย่าวิงวอนสิ่งอื่นจากอัลลอฮ์ที่ไม่อำนวยประโยชน์แก่เจ้า และไม่ให้โทษแก่เจ้า หากเจ้ากระทำเช่นนั้น แท้จริงเจ้าจะอยู่ในหมู่ผู้อธรรม
[10:107]
และหากอัลลอฮ์จะทรงให้ทุกข์ภัยประสบแก่เจ้าแล้ว ก็ไม่มีผู้ปลดเปลื้องมันได้นอกจากพระองค์ และหากพระองค์ทรงปรารถนาความดีแก่เจ้าแล้ว ก็จะไม่มีผู้ใดกีดกันความโปรดปรานของพระองค์ได้ พระองค์ทรงให้ประสบแก่ผู้ที่พระองค์ทรงประสงค์จากปวงบ่าวของพระองค์ และพระองค์เป็นผู้ทรงอภัยโทษ ผู้ทรงเมตตาเสมอ
[10:108]
จงกล่าวเถิด (มุฮัมมัด) โอ้มนุษย์เอ๋ย แน่นอนสัจธรรมจากพระเจ้าของพวกท่านได้มายังพวกท่านแล้ว ดังนั้นผู้ใดปฏิบัติตามแนวทางที่ถูกต้อง แท้จริงเขาดำเนินตามแนวทางที่ถูกต้องเพื่อตัวของเขา และผู้ใดหลงทาง แท้จริงเขาก็หลงทางเพื่อตัวของเขา และฉันไม่ได้เป็นผู้คุ้มกันพวกท่าน
[10:109]
และเจ้าจงปฏิบัติตามที่ถูกวะฮีย์ยฺแก่เจ้า และจงอดทนจนกว่าอัลลอฮ์จะทรงตัดสิน และพระองค์ทรงเป็นผู้ตัดสินที่ดียิ่ง